โปรแกรมออกแบบแปลนบ้าน

                                       โปรแกรมออกแบบแปลนบ้าน

1. MY DECO 3D ROOM PLANNER

สำหรับโปรแกรมออนไลน์ตัวนี้ จะช่วยให้คุณออกแบบแปลนได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถออกแบบลวดลายกำแพงที่คุณตกแต่งเองในโปรแกรมตัดต่อรูปภาพได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีหน้าจอการใช้ง่ายและสะดวกครับ

                            

2. IKEA HOME PLANNER

นอกจากจะใช้ออกแบบแปลนได้ทั่วไปแล้ว โปรแกรม IKEA HOME PLANNER ยังมีฟังก์ชั่นสำหรับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย มาพร้อมกับแบบแคตาล็อกเฟอร์นิเจอร์ของบริษัท IKEA มาให้ลองตกแต่งครับ

3. IKEA KITCHEN PLANNER

โปรแกรม IKEA KITCHEN PLANNER นี้มีไว้สำหรับออกแบบห้องครัวโดยเฉพาะ มาพร้อมกับแคตาล็อกเครื่องครัวยี่ห้อ IKEA นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นคำนวณราคาวัสดุตกแต่งคร่าวๆอีกด้วยครับ

4. DESIGN A ROOM

สำหรับโปรแกรม DESIGN A ROOM จะเน้นการออกแบบในรูปแบบ 3D สมจริง ซึ่งจะทำให้คุณมองเห็นภาพบ้านที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้วได้สมจริงมากขึ้น

5. HOMESTYLER

โปรแกรมนี้ออกแบบโดยบริษัทที่ผลิตซอฟท์แวร์ตระกูล Autodesk โดยจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เหมาะสำหรับการออกแบบแปลนบ้านคร่าวๆครับ

6. DRYWALL ESTIMATOR

โปรแกรมนี้ค่อนข้างซับซ้อนในการใช้งาน โดดเด่นที่หน้าตาโปรแกรม ที่เป็นรูปกระดาษสำหรับออกแบบสีขาว สามารถออกแบบได้อย่างอิสระ ทั้งยังมีฟังก์ชั่นแนะนำการจัดสรรพื้นที่เวลาออกแบบอีกด้วยครับ น่าสนใจทีเดียว

7. SWEET HOME 3D 

สำหรับโปรแกรมจำลองสามมิติตัวนี้ เหมาะสำหรับการออกแบบและตกแต่งห้องขนาดกลางๆ ก่อนเริ่มใช้งานจำเป็นต้องใส่ข้อมูลบางอย่างครับ

8. SMARTDRAW
โปรแกรม Smartdraw เป็นโปรแกรมออกแบบที่สามารถนำแบบแปลนที่เราเป็นคนสร้างสรรค์ขึ้นมาไปนำเสนอแบบ Presentation เหมือนกับโปรแกรม Powerpoint ครับ พร้อมทั้งฟังก์ชั่นที่หลากหลายครบครันครับ

9. SMALL BLUE PRINTER: FLOOR PLANNER

เป็นอีกทางเลือกที่เน้นความเรียบง่าย สำหรับการออกแบบแปลนบ้าน โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการออกแบบมากนัก ก็สามารถใช้งานได้ง่ายๆครับ

10. SMALL BLUE PRINTER: GARDEN PLANNER

สำหรับเจ้าโปรแกรมตัวนี้จะเป็นโปรแกรมออกแบบสวนครับ ซึ่งจะเป็นแบบเดียวกับโปรแกรมออกแบบแปลนบ้าน แต่จะมีฟังก์ชั่นเสริมสำหรับตกแต่งสวนแทน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้รูปแบบต่างๆ หรือเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง

ที่มา : Freshome

โปรแกรมโลโก้

โปรแกรมออกแบบโลโก้

1. Free Logo Design https://www.freelogodesign.org

เว็บไซท์นี้เขาเคลมว่ามีแบรนด์กว่า 1 ล้านแบรนด์มาใช้บริการทำโลโก้ฟรีกับเขา อยากลองใช้ว่าดีขนาดไหนก็ลองดูได้เลยจ้า ฟรีแน่นอน

2. Hipster Logo Generator https://www.hipsterlogogenerator.com

เป็นเว็บออกแบบโลโก้ฟรีที่ใช้งานง่ายสุดๆ ลำดับการออกแบบเป็นขั้นเป็นตอน มือใหม่แค่ไหนก็ใช้ได้ แต่เห็นใช้ง่ายๆแบบนี้งานดีไม่ใช่เล่นนะคะ

3. Canva https://www.canva.com

เว็บประจำของมิสเดอร์มาเลยค่ะ เพราะนอกจากจะออกแบบโลโก้ฟรีได้แล้ว ยังออกแบบแบนเนอร์สำหรับโซเชียลมีเดียต่างๆได้อีกเยอะแยะเลยค่ะ แต่ข้อเสียคือภาพ หรือไอคอนฟรีมีให้ใช้จำกัด ถ้าอยากได้ภาพสวยๆต้องซื้อเอาค่ะ 

4. CreativeBooster https://creativebooster.net

เป็นอีกเว็บที่ดีงามสุดๆ เพราะนอกจากจะมีโลโก้ฟรีแล้ว ยังมีเทมเพลตฟรี ฟอนต์ฟรี Mockup ฟรีให้เลือกใช้อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าอยากได้กราฟฟิกระดับมืออาชีพสักชิ้น เว็บนี้เว็บเดียวเอาอยู่ค่ะ

5. Logomakr https://logomakr.com 

เว็บที่ใช้ง่ายสุดๆ ถ้ากลัวทำไม่เป็นยังมีคลิปสอนให้ตั้งแต่เปิดเว็บเลยอีกด้วย เรียกได้ว่าแทบจะจับมือทำกันเลยทีเดียว แค่นี้เรื่องมีโลโก้สวยๆ ดีๆ แถมฟรีก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วค่ะ

6. Online Logo Maker https://www.onlinelogomaker.com

เว็บนี้นอกจากจะออกแบบโลโก้ฟรีได้แล้ว ยังออกแบบนามบัตรได้อีกด้วย นอกจากนี้ถ้าหากไม่ชอบรูปภาพที่เว็บมีให้ก็ยังสามารถอัพโหลดรูปภาพของเราเข้าไปเองได้อีกด้วย

7. Logaster https://www.logaster.com

ถึงชื่อจะเหมือนปั๊มแก๊ส แต่ไม่ได้ขายแก๊สแน่นอนค่ะ เพราะมันคืออีกเว็บที่ให้เราเข้าไปออกแบบโลโก้ฟรีได้อย่างง่ายๆ เริ่มจากให้เราเลือกโลโก้จากคอนเซป ที่เว๊บเตรียมไว้ให้ ถูกใจแบบไหนก็เอาไปดัดแปลงให้เป็นแบบที่เราอยากได้มากที่สุด ทั้งหมดนี้คือฟรีนะคะ

8. Ucraft https://logo-maker.ucraft.com

เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการโลโก้แนวเรียบๆ ง่ายๆไม่หวือหวามาก เพราะมีวัตถุดิบให้เลือกใช้ค่อนข้างน้อยพอสมควร

9. Derma https://www.derma-innovation.com/designpackaginglogobrand

สำหรับเดอร์มา อาจจะไม่ได้ออกแบบโลโก้ฟรี แต่โลโก้ที่คุณได้จะเป็นโลโก้ในเกรดพรีเมี่ยม ที่ออกแบบให้เฉพาะแบรนด์นั้นๆ ไม่ซ้ำกับใคร ซึ่งนอกจากความสวยแล้วโลโก้ที่ดียังต้องสร้างการจดจำให้แบรนด์ได้ มีอัตลักษณ์ชัดเจนน่าจดจำ ซึ่งจะส่งผลที่ดีต่อแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่เกิดให้ เพราะถ้าลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ ยอดขายที่ดีจะตามมาอย่างแน่นอน

โปรแกรมสร้างการ์ตูน (Animation)

              8 โปรแกรมทำวีดีโอแอนิเมชั่น (Animation)

1. Animaker

Animaker เป็นโปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation ที่เอาไว้สร้างวีดีโอแบบ 2D, 2.5D, Handcraft , Infographic หรือ Typographic (กราฟฟิกแบบตัวอักษร)

ซึ่งตัว Animaker นั้นเคลมว่าถ้าคุณใช้โปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation ของเขา คุณจะเหมือนเป็นเจ้าของ Animation Studio ขนาดย่อมๆ ที่นึงเลยล่ะ!

ข้อดีของ Animaker คือคุณสามารถเริ่มใช้งานได้ฟรี แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้าง ส่วนข้อด้อยก็คือในหนึ่งเดือนนั้นคุณสามารถ Export วีดีโอได้เป็นจำนวนจำกัด (แม้กระทั่งแบบที่เสียเงิน)

ราคา: ฟรี – $49 ต่อเดือน

2. Animatron

โปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation ตัวนี้น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจาก Ultron ในหนังของ Marvel เพราะว่าทั้งชื่อ และโลโก้นั้นสื่อถึง Ultron จริงๆ

Animatron นั้นบอกไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะจะเป็นผู้สอน นักธุรกิจ ศิลปิน หรือใครๆ ก็ตาม คุณสามารถสร้างวีดีโอผ่าน Animatron ได้อย่างง่ายๆ

ข้อดีที่ Animatron เหนือกว่าโปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation ตัวอื่นๆ ก็คือ Animatron นั้นอนุญาตให้คุณอัปโหลดวีดีโอของคุณเองขึ้นไปยังระบบได้ 
ข้อด้อยของตัวนี้ ผมยังหาไม่เจอเลย! เพียงแต่ผมคิดว่าเมื่อเทียบกับโปรแกรมตัวอื่นๆ แล้ว Animatron น่าจะเป็นตัวที่มีชื่อเสียงน้อยกว่า เพราะว่าผมพึ่งจะมาเจอ Animatron ก็ตอนที่จะเขียนบทความนี้เอง (โปรแกรมตัวอื่นๆ ผมเคยเห็นผ่านมาตาบ้างแล้ว)

ราคา: 0 – $60 ต่อเดือน

3. Biteable

Biteable เป็นโปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation รุ่น Lightweight

ซึ่งตัว Biteable เองนั้นเคลมว่าเป็นโปรแกรมสร้างวีดีโอที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดในโลก และจากการที่ผมเคยลองใช้ก็พบว่ามันใช้งานได้ง่ายจริงๆ และราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับตัวอื่น

ส่วนข้อด้อยก็คือ ด้วยความที่ว่ามันใช้งานง่าย การปรับแต่งก็เลยค่อนข้างจำกัด

ราคา: 0 – $99 ต่อปี

4. Explee

Explee เป็นโปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation แบบ Whiteboard ในบทความนี้

เนื่องจากว่า Explee นั้นเป็นโปรแกรมที่โฟกัสที่ Whiteboard เพราะฉะนั้นการสร้าง Animation ผ่านโปรแกรมนี้จะสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย

แต่ข้อด้อยของโปรแกรมนี้ก็คือคุณไม่สามารถใช้งานได้ฟรี

ราคา $7 – $99 ต่อเดือน

5. GoAnimate

GoAnimate เป็นโปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation ที่มีฟีเจอร์ครบครัน

ข้อดีของ GoAnimate นอกจากเรื่องฟีเจอร์แล้วก็คือคุณสามารถอัพโหลดไฟล์วีดีโอ ออดิโอ หรือรูปภาพก็ได้ นอกจากนั้นแล้วคุณสามารถสร้าง และ Export วีดีโอจาก GoAnimate ได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย

ส่วนข้อด้อยก็คือราคาเริ่มต้นนั้นค่อนข้างแพง ($39 ต่อเดือน) แถมยังมีโลโก้ของ GoAnimate ติดมาด้วย

ราคา $39 – $159 ต่อเดือน

6. Moovly

Moovly นั้นเป็นโปรแกรมสร้างวีดีโอ Animation ที่ราคาเป็นมิตร โดยที่ใน Plan เริ่มต้นของ Moovly นั้น คุณสามารถสร้างวีดีโอที่มีความยาวได้ถึง 30 นาที

นอกจากนั้นแล้ว Moovly ยังมีแอพพลิเคชั่นมือถือที่ช่วยให้คุณสามารถอัพโหลดรูปภาพ และเสียงจากมือถือเข้าไปยังโปรแกรมได้เลยอีกด้วย

ข้อด้อยของ Moovly เมื่อเทียบกับโปรแกรมตัวอื่นๆ ก็คือเรื่องความสวยงามของเทมเพลต และ Animation

ราคา 0 – $39.95 ต่อเดือน

7. Powtoon

Powtoon เป็นโปรแกรมที่โฟกัสทั้งวีดีโอ Animation และวีดีโอ Presentation

จุดเด่นของ Powtoon ก็คือสามารถเริ่มใช้งานได้ฟรี (โดยที่วีดีโอที่สร้างขึ้นมามีแบรนด์ Powtoon ติดอยู่) นอกจากนั้นแล้ว Powtoon ยังมี Animation และเพลงให้เลือกใช้เยอะพอสมควรอีกด้วย

ข้อด้อยของ Powtoon คือราคาต่อเดือนของ Plan ที่ต้องจ่ายเงินนั้นค่อนข้างแพง (ถ้าเป็นต่อเดือนเริ่มต้นที่ $89 แต่ถ้าซื้อเป็นปี เหลือเดือนละแค่ $19)

ราคา: 0 – $197 ต่อเดือน

โปรแกรมสร้างเกมส์3D

                                                        โปรแกรมสร้างเกมส์3D

1. โปรแกรม UDK หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Unreal Development Kit,ก็คงไม่ผิดนัก ตัวนี้เป็นผลงานสุดอลังการจากค่าย พัฒนายักษ์ใหญ่เจ้าของ เอ็นจินระดับเทพ Epic Studio  ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด  Unreal Engine  นั่นเองครับ ว่าไปแล้ว UDK ก็คือ Unreal Engine  3 เวอร์ชั่นที่ออกมาให้ใช้งานได้ฟรีๆ โดยจะเสียค่าลิขสิทธิ์เฉพาะผู้นำไปพัฒนาเกมส์เพื่อสร้างรายได้มากกว่า $50000  ขึ้นไปครับแต่ก็ซื้อแค่เพียง $99เท่านั้นครับ

แล้วโปรแกรมนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง..?

แน่นอนครับขึ้นชื่อว่า Engine ระดับเทพแล้วันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆครับ พื้นฐานของโปรแกรมนี้ ใช้ไวยากรณ์ของภาษา C/C++ เป็นหลักครับ โครงสร้างในการจัดการ ส่วนต่างๆของเกมส์ถูกแบ่งให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเข้าใจง่าย

มีฟังชั่นการออกแบบ พื้นผิววัตถุ โครงสร้างแผนที่ และสถาปัตยกรรมต่างๆ  รวมไปถึงบรรยากาศ และเสียงประกอบในเกมส์ ฉาก แสงสีและมุมกล้อง ทั้งหมด ใน UDK มีมาให้เราหมดเลยครับ นอกจากนั้นในการสร้างเงื่อนไงให้กับระบบต่างยังมีสามารทำได้ง่ายผ่านระบบ Kismet  ใน UDK เองครับ โปรแกรมนี้ สร้างเกมส์และกราฟิคได้สวยงามตระการตา สามารถสร้างเอฟเฟกต์ที่อลังการอย่างมากครับ เกมส์ดังๆหลายๆค่ายก็พัฒนาโดยใช้ UDK ครับ

2. unity เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่นักพัฒนาเกมส์ เพราะความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นในการสร้างเกม นอกจากนั้น ยังมี Asset Store  ใว้สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนรวมไปถึงแจกฟรี สำหรับสคริป และโมเดลต่างๆ เพื่อให้นักพัฒนาที่ใช้โปรแกรมนี้ได้ซื้อหาและดาวน์โหลดมาใช้งานได้อย่างไร้ขอบเขต

unity นั้นแบ่งพื้นที่การทำงานออกหลักๆแล้วเป็น2ส่วนชัดเจนครับ คือส่วนที่เป็นการออกแบบ โมเดล และวัตถุ สถาปัตยกรรมต่างๆ ในเกมส์ และส่วนที่2คือส่วนในการเขียนสคริป ซึ่งก็มีให้เลือกหลายภาษาตามความถนัดของแต่ละคนครับ แต่โดยมากแล้วเหมาะกับ ภาษา C# ครับตัวโปรแกรมนี้ สร้างกราฟฟิคออกมาได้สวยงาม ไม่แพ้โปรแกรมอื่นเลยครับ feture และ interface ต่างๆค่อนข้างอำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาได้เป้นอย่างดีครับ

3.cryengine นี่ก็เป็น Games engine  อีกตัวหนึ่งที่น่าติดตามครับ เป็นรูปแบบ engine ที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากและการใช้งานยังง่ายสุดๆ

โปรแกรมสร้างเว็บ

                                                           โปรแกรมสร้างเว็บ

1.โปรแกรม Adobe Dreamweaver  คือ Dreamweaver คือโปรแกรมสร้างเว็บเพจแบบเสมือนจริง ของค่าย Adobe ซึ่งช่วยให้ผู้ที่ต้องการสร้างเว็บเพจไม่ต้องเขียนภาษา HTML หรือโค๊ดโปรแกรม เอง หรือที่ศัพท์เทคนิคเรียกว่า "WYSIWYG " โปรแกรม Dreamweaver มีฟังก์ชันที่ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดวางข้อความ รูปภาพ ตาราง ฟอร์ม วิดีโอ รวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ภายในเว็บเพจได้อย่างสวยงามตามที่ผู้ใช้ต้องการ โดยไม่ต้องใช้ภาษาสคริปต์ที่ยุ่งยากซับซ้อนเหมือนก่อน Dreamweaver มีทั้งในระบบปฏิบัติการ แมคอินทอช และไมโครซอฟท์วินโดวส์ Dreamweaver ยังสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการแบบยูนิกซ์ ผ่านโปรแกรมจำลองอย่าง WINE ได้ 

ตัวอย่างหน้าแรกของโปรแกรม Adobe Dreamweaver CS5.5

2.โปรแกรม JOOMLA  คือ CMS ตัวหนึ่งจากหลาย ๆ ตัวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สำหรับคุณที่ยังไม่รู้จักว่า CMS คืออะไร ขออธิบายสั้น ๆ เพิ่มเติมดังนี้ครับ CMSนั้นเป็นอักษรย่อของ คำว่า "Content Management System" ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาไทย หมายถึง ระบบบริหารจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ นั่นหมายความว่า สิ่งที่เราจะต้องดูแลก็คือเนื้อหาของเว็บไซต์ เช่น การเพิ่มบทความ การเพิ่มรูปภาพ หรือการปรับแต่งโยกย้ายโมดูลต่าง ๆ ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งเขียน Code ด้วยภาษา HTML, PHP, SQL เพียงแต่เรียนรู้วิธีการติดตั้ง การปรับแต่ง การใช้งาน CMS เท่านั้น สำหรับ Code ต่าง ๆ ที่นำมาสร้าง และ ออกแบบเว็บไซต์ จะทำโดยทีมงานของผู้พัฒนา CMS ของแต่ละทีม ซึ่งทำให้ประหยัดเวลาในการสร้าง และออกแบบเว็บไซต์ ได้อย่างมาก

ตัวอย่างการดาวน์โหลดโปรแกรม  JOOMLA

3.โปรแกรม WordPress  คือ โปรแกรม สำเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สำหรับสร้าง บล็อก หรือ เว็บไซต์ สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีไว้สำหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บ ไซต์

ตัวอย่างหน้าแรกการสร้างเว็บโปรแกรม WordPress

WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคำสั่งมาจากภาษา PHP (เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง) ทำงานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรียกดู แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งาน WordPressร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ GNU General Public License

WordPress ปรากฏโฉมครั้งแรกในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2546 (2003) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Matt Mullenweg และ Mike Littlej มีเว็บไซต์หลักอยู่ที่ http://wordpress.org และยังมีบริการ Free Hosting (พื้นที่สำหรับเก็บทุกอย่างของเว็บ/บล็อก) โดยขอใช้บริการได้ที่ http://wordpress.com

ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บบล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็นเพราะ ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนา Theme (รูปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่างมากมาย

โปรแกรมตัดต่อเสียง

                                    โปรแกรมตัดต่อเสียง

1.Audacity

สุดยอดซอฟต์แวร์ดัดแปลงไฟล์เสียงฟรีที่เต็มไปด้วยความอเนกประสงค์ และสามารถปิดงานด้วยโปรแกรมเดียว

Audacity เป็นโปรแกรมดัดแปลงเสียงยอดนิยม เพราะความสามารถของซอฟต์แวร์ตัวนี้ ครอบคลุมทุกการใช้งานของจริง

ไม่ว่าจะมีระบบบันทึกเสียงผ่านไมโครโฟน (หากมี Capture Card) มาเป็นไฟล์เสียงแล้วพร้อมตัดต่อทันที และสามารถรองรับไฟล์เสียงหลายนามสกุล รวมถึงการเซฟข้อมูลได้หลากประเภท นอกจากนี้ โปรแกรมยังรองรับ Plug-In จากผู้พัฒนาเสียงอิสระอีกด้วย

ถึงแม้หน้าต่างการใช้งานดูตกยุค แต่การออกแบบที่ลงตัว ทำให้ซอฟต์แวร์ Audacity เป็นที่นิยมสำหรับเหล่านักศึกษา, อาชีพ Sound Engineering จนถึงระดับสตูดิโอขนาดใหญ่หลายแห่งที่ยังคงไว้ใจโปรแกรมนี้

ดาวน์โหลด Audacity ได้ ที่นี่

2.Ocenaudio

โปรแกรมเหมาะสำหรับการดัดแปลงเสียงขนาดเล็ก และใช้ชีวิตประจำวันติดบ้าน

Ocenaudio อาจไม่ใช่ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสำหรับงานใหญ่ แต่ก็มี Tool เยอะพอจะสามารถลองหยิบลองถูกหรือฝึกฝนใช้งาน เพื่อสามารถสานต่อไปยังโปรแกรมอื่นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

แต่ไม่ใช่ว่า Ocenaudio ไม่มีประสิทธิภาพเลยซะทีเดียว เพราะหน้าตาการออกแบบการใช้งานที่สะอาด และฟีเจอร์ที่สำคัญยังคงอยู่ เช่น Multi-Tracking, ใส่ Effect กับ Filter เป็นต้น รวมไปถึงสามารถ Export ไฟล์เสียงให้เป็น Ringtone สำหรับเครื่อง iOS (ส่วนตัวคิดว่าเป็นระบบที่เจ๋งดี)

ซอฟต์แวร์นี้จึงเหมาะสำหรับมือใหม่, ระดับกลางจนถึงบุคคลทั่วไป เพราะลักษณะการใช้งานไม่ซับซ้อน แต่มีลูกเล่นหลายอย่างให้ทำ เป็นผลให้ Ocenaudio ใช้งานสนุกสนานและเพลิดเพลินอย่างน่าประหลาด

ดาวน์โหลด Ocenaudio ได้ ที่นี่

3.Free Audio Editor โดย DVDVideoSoft

ซอฟต์แวร์ดัดแปลงเสียงที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่ทำได้

โปรแกรมชื่อง่าย ๆ ที่มาพร้อมกับระบบง่าย ๆ Free Audio Editor มีหน้าที่เพียงแค่ตัด Trim, ต่อเสียง กับสามารถ Export ไฟล์เสียงหลากหลายนามสกุลเท่านั้น

มันไม่ใช่โปรแกรมที่อเนกประสงค์ที่สุด เพราะแม้กระทั่งไม่มีระบบใส่ Filter หรือ Effect แต่นี่คือจุดประสงค์หลักของ Free Audio Editor ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันต้อง รวดเร็ว, ง่าย, และเบสิก ซึ่งซอฟต์แวร์เหมาะสำหรับใช้งานตัดต่อเสียงสำหรับ Podcast อย่างยิ่ง

ดาวน์โหลด Free Audio Editor ได้ ที่นี่

4.Ashampoo Music Studio

โปรแกรมที่สามารถทั้งดัดแปลงเพลง, เล่นเพลง และก๊อบปี้แผ่นเพลงในตัวเดียวกัน

Ashampoo Music Studio มีคุณสมบัติแตกต่างจากโปรแกรมอื่นทั่วไป เพราะตัวนี้มีจุดประสงค์เพื่อปรุงแต่งทำเพลงโดยเฉพาะ ฉะนั้น Tool บางอย่างที่ควรมีจะขาดหายไป โดยเฉพาะ ระบบ Multi-Tracking, ลดเสียง และใส่ Filter ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดัดแปลงเสียงดันไม่มีในซอฟต์แวร์นี้ซะงั้น

แต่อุปกรณ์เช่น พวกตัด Trim, ปรับปรุงเสียง, การแยกไฟล์, หรือเครื่องมือพื้นฐานยังคงอยู่ครบ และนอกจากนี้ โปรแกรมสามารถจัดการ Tags ไฟล์เพลงกับเป็นเครื่องเล่นเพลงไปในตัว พร้อมสามารถแกะไฟล์วิดีโอคลิปออกมาเป็นเสียงได้เช่นกัน

ผู้ใช้อาจจะไม่เชื่อ แต่โปรแกรมนี้มีระบบเบิร์นแผ่นเพลงแบบครบสูตร ตั้งแต่เขียนแผ่นก๊อบปี้จนถึงพิมพ์หน้าปกซีดี ถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีก็ได้ใช้ก็ดี

ดาวน์โหลด Ashampoo Music Studio ได้ ที่นี่

5.Hya-Wave (Online, Chrome)

โปรแกรมตัดต่อเสียงฟรี ฉบับออนไลน์ที่สามารถเปิดขึ้นมาทำงานที่ไหนก็ได้

หลังจากนำเสนอโปรแกรม Desktop มาเยอะแล้ว มาถึงคราวของ Hay-Wave โปรแกรมดัดแปลงไฟล์เสียงที่ต้องใช้ผ่าน Web Browser ของ Chrome เท่านั้น

ถึงแม้ว่าโปรแกรมไม่มีระบบ Multi-Tracking แต่อุปกรณ์เบื้องต้นอย่าง ตัด Trim, วาง, ก๊อบปี้, ใส่ Effect กับ Filter เป็นต้น และที่สำคัญ ผู้ใช้บันทึกงานผ่านระบบ Cloud ของเว็บไซต์ ซึ่งสามารถเปิดพร้อมทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่ต้องออกเดินทางบ่อยอย่างยิ่ง

ทดลองใช้ Hya-Wave ได้ ที่นี่